Home |
‘คงสิน คงคา’ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงเทรนด์ธุรกิจในปี 2566 ว่า ตลาดรถยนต์ยังมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยคาดว่ายอดขายรถใหม่จะอยู่ที่ 866,000 คัน เติบโต 2% จากปีก่อน
โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ได้รับความนิยมมากขึ้น จากนโยบายสนับสนุนของรัฐ การเข้ามาทำตลาดในประเทศของผู้ผลิตรถ และการให้ความสำคัญกับพลังงานสะอาด (Green Energy) ของผู้บริโภค
ส่งผลให้ ‘กรุงศรี ออโต้’ คาดว่าสินเชื่อรถ EV ปีนี้จะเติบโต 100% จากปีก่อนที่ 2,300 ล้านบาท มาอยู่ที่ 4,600 ล้านบาท สอดคล้องกับยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าปีนี้ ที่คาดว่าจะเติบโตแตะ 30,000 คัน หรือเติบโต 3 เท่าจากปีก่อน
นอกจากปัจจัยหนุนที่กล่าวไปข้างต้น บริษัทฯ ยังเดินหน้าจับมือกับผู้ผลิตรถ EV รายใหม่อย่างต่อเนื่อง จากปัจจุบันมีพาร์ทเนอร์ทั้งหมดประมาณ 30 ราย ซึ่งครอบคลุมผู้เล่นสำคัญๆ เช่น บีวายดี ออโต้ (BYD Auto) และเทสล่า มอเตอร์ (Tesla) ฯลฯ
ขณะที่การคิดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อรถยนต์ไฟฟ้าของ กรุงศรี ออโต้ ปัจจุบันบริษัทฯ เริ่มคิดดอกเบี้ยตั้งแต่ 1.88% ไปจนถึง 2-3% ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงของลูกค้าแต่ละราย การวางดาวน์ และระยะเวลาผ่อนชำระ
ในวันเดียวกัน กรุงศรี ออโต้ยังประกาศเป้าหมายธุรกิจปีนี้ โดยคาดว่ายอดสินเชื่อใหม่จะเติบโต 5% มาอยู่ที่ 192,000 ล้านบาท และยอดสินเชื่อคงค้างจะขยับขึ้นมาอยู่ที่ 426,000 ล้านบาท จากปีก่อนที่ 425,000 ล้านบาท
โดยได้ปัจจัยหนุนจากการเติบโตของทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะสินเชื่อรถจักรยานยนต์ และสินเชื่อรีไฟแนนซ์รถจักรยานยนต์ที่เห็นการเติบโตค่อนข้างดีในช่วงไตรมาสแรกของปี 2566
นอกจากการเติบโตผ่านช่องทางปกติแล้ว การปล่อยสินเชื่อผ่านช่องทางดิจิทัลของบริษัทฯ ก็ยังมีแนวโน้มเติบโตดีเช่นกัน โดยคาดว่าในปีนี้จะโตอีก 8.5% จาก 13,000 ล้านบาท มาอยู่ที่ 16,000 ล้านบาท (ยอดสินเชื่อคงค้าง)
และหากพูดถึงช่องทางดิจิทัลแล้ว ในปีนี้ กรุงศรี ออโต้ มีแผนจะสร้าง Fansumer ผ่านแอปพลิเคชัน GO by Krungsri Auto ผ่านการนำเสนอดีลซื้อขายรถในราคาที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าแต่ละราย รวมถึงการสร้างคอนเทนต์จากอินไซท์ที่ลูกค้าสนใจ ฯลฯ
นอกจากนี้ จะใช้ประโยชน์จากการเป็นเบอร์ 1 ในอุตสาหกรรมสินเชื่อยานยนต์ให้มากขึ้น จากการวิเคราะห์ข้อมูลฐานลูกค้า 12 ล้านราย เพื่อเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่เหมาะกับลูกค้า รวมถึงเอาข้อมูลที่ได้ไปสร้าง Value ธุรกิจให้คู่ค้าด้วย
เมื่อถามถึงความเสี่ยงหนี้เสีย (NPL) ในปีนี้ ท่ามกลางหนี้ครัวเรือนที่ยังทรงตัวสูง บริษัทฯ ยังเชื่อมั่นว่า จะยังสามารถคุมหนี้เสียให้อยู่ในระดับต่ำกว่า 2% ได้อย่างต่อเนื่อง แม้เทรนด์ในอุตสาหกรรมอาจปรับตัวสูงขึ้น หลังจบมาตรการพักหนี้ของทางการ
ส่วนอีกหนึ่งปัจจัยเสี่ยงที่อาจกระทบต่อการปล่อยสินเชื่อของธุรกิจเช่าซื้อ-ลีสซิ่ง คือการเข้ามาควบคุมของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งล่าสุด คณะรัฐมนตรี (ครม.) ระบุชัดเจนให้แบงก์ชาติเข้ามากำกับธุรกิจ
อย่างไรก็ตาม กรุงศรี ออโต้ ไม่ได้มีความกังวลต่อประเด็นนี้ โดยเชื่อว่าการเข้ามากำกับของ ธปท. จะไม่กระทบกับบริษัทฯ และผู้ให้บริการที่อยู่ภายใต้ธนาคาร แต่อาจกระทบกับผู้ให้บริการ Non-bank (สถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร)
อัพเดทข่าว เพิ่มเติม : แหวนแหวน ปวริศา เพ็ญชาติ พิธีกรมากความสามารถ กับรายได้ธุรกิจสุดสตรอง!